ก้าวย่างของผู้คนธรรมดา คือ ปัจจัยที่กำหนดอนาคต: “การพยากรณ์จะเกิดขึ้นจริงตามที่พยากรณ์” เราต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือซึ่งก่อให้เกิดภาวะดังกล่าว
“ปัญหาน่ะไม่ได้อยู่ที่ปัญหาหรอก ปัญหาอยู่ที่มุมมองที่เจ้าตัวมีต่อปัญหาต่างหาก” (แจ็ค สแปร์โรว์)
เมื่อมองดูปัญหาเรื่องไวรัสโคโรนา ผมก็นึกถึงข้อความนี้ขึ้นมา การที่โรคระบาดขึ้นนั้น มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่การรับมือหลังจากนั้นต่างหากที่ผมรู้สึกว่า บางครั้ง เราก็กำลังเอามือบีบคอตัวเอง
การพยากรณ์จะเกิดขึ้นจริงตามที่พยากรณ์
ศาสตร์ด้านจิตวิทยาสังคมนั้นมีคำกล่าวว่า “การพยากรณ์จะเกิดขึ้นจริงตามที่พยากรณ์”
กล่าวคือ พอคน ๆ หนึ่งพูดว่า “สถานการณ์น่าจะเลวร้ายไปอีก” การกระทำของคนอื่น ๆ ก็จะเป็นไปในเชิงลบเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากผู้พูด ส่งผลให้สภาพการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นจริง ๆ ในท้ายที่สุด
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในลักษณะกลับกันด้วย กล่าวคือ คำพูดที่เป็นไปในแง่บวกจะส่งผลให้ผู้คนปฏิบัติสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวก เป็นการยกระดับสภาพเศรษฐกิจ และ สังคมในท้ายที่สุด เรียกว่าความรู้สึกของคนเราส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจก็ได้ครับ
เมื่อมองในแง่นี้ ก็เท่ากับว่า วาจา และ การกระทำของ “คนธรรมดา” อย่างพวกเรานี่แหละที่เป็นตัวกำหนดว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
แม้ในปัจจุบัน เราอาจจะยังรู้สึกกังวลกับอนาคตก็ตาม แต่เราควรหยุดกระจายข้อมูลโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน
ไม่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสแห่งความไม่สบายใจไปแพร่ให้ผู้อื่น
ก่อนหน้านี้ มีคนบอกผมว่า “มีคนติดเชื้อที่… ตอนนี้ที่นั่นลำบากกันมากเลย ได้ยินมาว่าที่จริงมีคนติดเชื้อเยอะกว่านั้นอีก จากนี้ลำบากแน่”
ผมจึงขอร้องเขาว่า “ถ้ามันเป็นแค่เรื่องที่บอกต่อกันมา และ ยังไม่มีการพิสูจน์ความจริง ก็อย่ากระจายข่าวนี้เลย” ข่าวลือนั้นมักจะถูกบอกต่อกันอย่างเกินจริง ในบางครั้งก็กลายเป็นเรื่องราวที่ต่างจากข้อเท็จจริงมาก
ต่อให้มันคือข้อเท็จจริงก็ตาม แต่ถ้าบอกต่อเพราะแค่ต้องการสื่อถึงความกังวลของตน หรือ บอกต่อโดยไม่มีความจำเป็น เราก็ไม่ต่างจาก “พาหะนำเชื้อไวรัสแห่งความไม่สบายใจไปแพร่ให้ผู้อื่น” หรอกครับ
สื่อมวลชนบางส่วนน่าจะเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คน หรือ องค์กรที่เอาแต่ทำให้ผู้อื่นกังวลนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะเอาแต่โทษผู้อื่น หรือ ต่อให้การกระทำดังกล่าวส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจแย่ลง ต่อให้ตนสูญเสียอาชีพการงาน เขาก็จะยังวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และ สังคม
ผมไม่อยากให้ผู้ที่เอาแต่กระจายความไม่สบายใจให้ผู้อื่นโดยไม่จำเป็น มาทำลายชีวิต หรือ อนาคตของคนที่กำลังพยายามต่อสู้ หรือ เด็ก ๆ ทั้งหลาย
ก้าวย่างของ “คนธรรมดา” แบบพวกเรานี่ล่ะที่สำคัญ
สรุปสั้น ๆ อีกครั้งนะครับว่า การกระทำของ “คนธรรมดา” แบบพวกเรานี่ล่ะครับที่สำคัญ ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากก็ใช้ความระมัดระวังกันอยู่แล้ว แต่ขอรวบรวมประเด็นต่าง ๆ ไว้ด้านล่างนี้ เพื่อพวกเราจะได้อ่าน แล้ว พิจารณาตนเองอีกครั้งว่า เราแต่ละคนได้ใส่ใจในสิ่งเหล่านี้แล้วหรือยัง
・ร่วมกันเลิกกระจายข่าวที่จะทำให้เกิดความกังวลโดยไม่จำเป็น เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพ และ จิตใจของผู้คนที่สำคัญต่อท่าน รวมทั้งจะทำให้สังคมแย่ลงด้วย (ความกังวลจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันแย่ลง และ ทำให้ป่วยง่ายขึ้น)
・พยายามใช้จ่ายตามปกติ เงินที่ท่านใช้จ่ายจะหวนกลับกลายเป็นรายได้ของเพื่อน หรือ ผู้คนที่ท่านให้ความนับถือ
・ร่วมกันส่งมอบความร่าเริงให้แก่กันและกัน ทักทายกันอย่างร่าเริง ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสดใส ระดับภูมิคุ้มกันจะดีขึ้นครับ รอยยิ้มนั้น คือ ต้นกำเนิดของกำลังใจ แสดงให้อีกฝ่ายเห็นถึงรอยยิ้มที่อยู่ใต้หน้ากากนั้น (เมื่อเช้าผมลองยิ้มหน้ากระจกดูแล้วครับ พบว่าถ้าเรายิ้มกว้าง ๆ อีกฝ่ายจะเห็นได้ถึงรอยยิ้มที่อยู่ใต้หน้ากากนั้น)
・พยายามทำงานตามปกติ และ ใส่ใจด้านสุขภาพด้วยในเวลาเดียวกัน ปัจจุบัน เราสามารถทำธุระเกือบทุกชนิดได้ผ่านโลกออนไลน์ เราควรร่วมกันคิดหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อทำงานให้ได้ตามเป้าหมายโดยพยายามหลีกเลี่ยงการเลื่อนเวลา หรือ การยกเลิกให้ได้มากที่สุด มนุษย์เราสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นเพื่อใช้ในเวลาคับขันแบบนี้ล่ะครับ
ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำแบบนี้ต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน เราจะต้องมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แน่ ๆ พวกเรามาฝ่าฟันไปด้วยกันนะครับ
และเพื่อให้โลกของเราสดใสขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม วันนี้ผมก็จะไปพบลูกค้า และ จะพูดคุยเรื่องอนาคตอย่างตั้งใจครับ
——————-
> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe
> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact
Suggest Section
Identity Leadership Journey (for TH) Batch#33
สร้างความเป็นผู้นำในแบบของตน ผ่านเวิร์คช็อปที่จะทำให้ทุกท่านได้สำรวจ และรับรู้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อน ประเด็นปัญหาและสไตล์การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นผ่านการทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา ทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบของ Leadership
Completed ORSC™ - Organization and Relationship System Coaching Practical Application Course
Certified Facilitator of Hofstede Insight Organizational Culture (วัฒนธรรมองค์กร)